FAQ ทั่วไป
- วิริยะเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านประกันสุขภาพโดยตรงที่มีประสบการณ์ยาวนานมากกว่า 30 ปีในประเทศไทย และมีความมั่นคงทางด้านการเงินสูง เนื่องจากมีบริษัทแม่อยู่ที่ประเทศอังกฤษ เป็นองค์กรที่ไม่มีผู้ถือหุ้น จึงไม่มีการปันผลกำไรให้ผู้ถือหุ้น นอกจากนี้วิริยะไม่มีนโยบายนำค่าเบี้ยประกันไปลงทุนเหมือนประกันชีวิต จึงไม่มีความเสี่ยงที่เกิดจากการลงทุน ดังนั้นรายได้หรือกำไรก็จะกลับมาที่ สมาชิก โดยจะมาเป็นเงินกองกลางสำรองไว้จ่ายค่ารักษาพยาบาลของ สมาชิกทั้งหมด ทำให้มีสภาพคล่องทางด้านการเงินสูงและเพียงพอในกรณีที่เกิดโรคระบาดร้ายแรง ดังนั้นจึงไม่ต้องห่วงเรื่องความมั่นคงของบริษัท
- วิริยะมีส่วนแบ่งทางการตลาดเป็นอันดับ 1 ในธุรกิจประกันสุขภาพ
- วิริยะได้รับความเชื่อถือจากองค์กรชั้นนำในประเทศมากกว่า 1,000 องค์กรและยังมีสมาชิกทั่วโลก มากกว่า 4,000,000 คน
- วิริยะเป็นบริษัทเดียวที่รับประกันการต่ออายุตลอดชีพ
- วิริยะเป็นบริษัทเดียวที่มีการจ่ายเงินคืนให้แก่ สมาชิก 10% ในกรณีที่ไม่มีการเคลมภาพ
- บัตรวิริยะเป็นที่ยอมรับของโรงพยาบาลและคลินิกกว่า 300 แห่งทั่วประเทศ โดยที่สมาชิกไม่ต้องสำรองเงิน และให้ความคุ้มครองทั่วโลก
- มีผู้เชี่ยวชาญที่คอยให้คำแนะนำทางด้านสุขภาพตลอดเวลา
ประกันชีวิตและประกันสุขภาพมีหลักการต่างกัน การซื้อประกันแต่ละอย่างขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของ สมาชิก
หัวข้อ | ประกันชีวิต | ประกันสุขภาพวิริยะ |
---|---|---|
วัตถุประสงค์การซื้อ | คุ้มครองการสูญเสียชีวิต | คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลกรณีบาดเจ็บและเจ็บป่วย |
ความคุ้มครอง | วงเงินความคุ้มครองของประกันสุขภาพจะขึ้นอยู่กับวงเงินทุนประกันชีวิต จึงทำให้ สมาชิกไม่สามารถเลือกความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลตามที่ต้องการได้ | สามารถเลือกขอบเขตและวงเงินคุ้มครองได้ตามความต้องการและความเหมาะสมกับสถานพยาบาลที่สมาชิกใช้บริการ |
ผลประโยชน์ | จ่ายผลประโยชน์เมื่อเสียชีวิต เพื่อให้กับคนในครอบครัวหรือผู้รับประโยชน์อื่น ๆ | จ่ายผลประโยชน์ให้ตัวคุณเอง |
เบี้ยประกัน | มีการคำนวณเบี้ยประกันตลอดระยะสัญญาไว้ล่วงหน้าเพื่อได้เฉลี่ยค่าเบี้ยประกันแต่ละช่วงอายุซึ่งมีการปรับเบี้ยประกันทุก ๆ 5 ปี หากสมาชิกมีการรักษาด้วยโรคเรื้อรังทำให้มีการเคลมสูง ซึ่งบริษัทประกันชีวิตสามารถยกเลิกกรมธรรม์ได้ เพื่อลดอัตราการเคลมทำให้สามารถคงเบี้ยไว้ได้ | สำหรับวิริยะคำนวณเบี้ยประกันปีต่อปี ตามอัตราความเสี่ยงของผู้เอาประกันแต่ละช่วงอายุ และการปรับของอัตราค่ารักษาในโรงพยาบาลในแต่ละปี ซึ่งวิริยะการันตีการต่ออายุตลอดชีพ ทำให้สมาชิกไม่ต้องกังวลว่าหากเป็นเมื่อเป็นโรคร้ายแรงแล้วจะถูกปฎิเสธ การต่ออายุ หรือยกเลิกกรมธรรม์ |
ระยะเวลาความคุ้มครอง | สิ้นสุดตามประกันชีวิตหรือบริษัทประกันชีวิตสามารถยกเลิกการต่อสัญญาได้เช่นเดียวกัน เนื่องจากเป็นสัญญาเพิ่มเติม | ปีต่อปี รับประกันการต่ออายุตลาดชีพ |
วิริยะมีประกันสำหรับกรณีผู้ป่วยนอก แต่สมาชิกจะต้องซื้อประกันสำหรับผู้ป่วยในเป็นพื้นฐานจึงจะสามารถซื้อผู้ป่วยนอกเพิ่มเติมได้
วิริยะให้ความคุ้มครองสมาชิกทุกท่านทั่วโลก ตลอด 24 ชั่วโมง อย่างไรก็ตาม ในประเทศอเมริกา วิริยะให้ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลเฉพาะกรณีอุบัติเหตุฉุกเฉินเท่านั้น
ประกันสุขภาพรายบุคคล
วิริยะรับประกันตั้งแต่อายุ 15 วัน – 65 ปี 364 วัน และต่ออายุให้ถึงอายุ 70 ปี แต่ถ้าสมาชิกซื้อกรมธรรม์ภายในอายุ 60 ปี วิริยะการันตีต่ออายุตลอดชีวิตประกันสุขภาพรายกลุ่ม
วิริยะรับประกันตั้งแต่อายุ 15 วัน – 65 ปี 364 วัน หลังจากอายุ 65 ปี หากต้องการซื้อประกันต่อเนื่อง จะต้องเปลี่ยนไปทำกรมธรรม์รายบุคคลโดยการต่ออายุกรมธรรม์ มีเงื่อนไขดังนี้
- หากเริ่มเป็นสมาชิกประกันกลุ่มก่อนภายใน อายุ 60 ปี เมื่อซื้อกรมธรรม์รายบุคคลต่อเนื่องจากประกันกลุ่ม วิริยะจะต่ออายุกรมธรรม์ให้ตลอดชีวิต
- หากเริ่มเป็นสมาชิกประกันกลุ่มเมื่ออายุ 61-65 ปี เมื่อซื้อกรมธรรม์รายบุคคลต่อเนื่องจากประกันกลุ่ม วิริยะจะต่ออายุกรมธรรม์ให้ ถึงอายุ 70 ปี
หมายเหตุ: โรคที่เป็นก่อนวันมีผลบังคับในกรมธรรม์รายบุคคลจะไม่ได้รับความคุ้มครอง
ประกันมะเร็ง
วิริยะรับประกันตั้งแต่อายุ 1 – 55 ปี 364 วัน และต่ออายุให้ถึงอายุ 65 ปี บริบูรณ์
ค่ารักษาในแต่โรงพยาบาลมีความแตกต่างกัน จึงควรคำนึงถึง
- สวัสดิการอื่น ๆ ที่ท่านมีอยู่ที่สามารถนำมาใช้ร่วมกันได้เพื่อประโยชน์สูงสุดของท่าน
- ความสามารถในการชำระเบี้ยประกันของท่าน
- ตรวจสอบเครือข่ายโรงพยาบาลสำหรับแผนประกันที่ต้องการซื้อ ว่าครอบคลุมถึงโรงพยาบาลที่ท่านสะดวกไปใช้บริการหรือไม่
- อาชีพ รูปแบบการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น การออกกำลังกาย กิจกรรมสันทนาการต่าง ๆ การกินเที่ยว
- อายุ และประวัติสุขภาพของตนเองและครอบครัว
- ความถี่และโอกาสในการการเดินทางไปต่างประเทศ
ในกรณีไปพบแพทย์ แต่ไม่จำเป็นต้องนอนโรงพยาบาล เรียกว่าเป็น ผู้ป่วยนอก ซึ่งจะคุ้มครองหรือไม่ แบ่งเป็น 2 กรณี
- หากซื้อผลประโยชน์ผู้ป่วยนอก จะคุ้มครองตามวงเงินและเงื่อนไขความคุ้มครองที่ระบุในกรมธรรม์ของท่าน แต่หากไม่ได้ซื้อผลประโยชน์ผู้ป่วยนอกไว้ จะไม่ได้รับความคุ้มครอง
- หากเป็นกรณีการเข้ารับการผ่าตัดซึ่งสามารถกระทำได้โดยไม่จำเป็นต้องรับการรักษาเป็นผู้ป่วยใน หรือที่เรียกว่า หัตถการ (day case) เช่น การตัดไฝ จี้หูด การส่องกล้องทางเดินอาหาร การลอกต้อเนื้อ การผ่าตัดเนื้องอกเต้านมอย่างง่าย ในกรณีเช่นนี้ หากความเจ็บป่วยนั้นอยู่ในเงื่อนไขความคุ้มครองวิริยะจะให้ความคุ้มครองค่าผ่าตัดและค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่เกี่ยวเนื่องตามผลประโยชน์ผู้ป่วยในของท่าน (กรณีนี้สมาชิกควรแจ้งให้โรงพยาบาลติดต่อวิริยะเพื่อตรวจสอบและยืนยันสิทธิ์ความคุ้มครองก่อนทุกครั้งเพื่อขอใช้สิทธิ์เสมือนผู้ป่วยใน เพราะถ้าหากท่านไม่ขอให้วิริยะยืนยันสิทธิ์ความคุ้มครองก่อน ท่านจะไม่สามารถใช้สิทธิ์ผู้ป่วยในได้ ดังนั้นจึงมาเบิกเคลมภายหลังไม่ได้)
- กรุณาแสดงบัตรสมาชิกวิริยะ ประกันสุขภาพ ของท่านกับเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลในเครือข่ายของวิริยะขณะติดต่อขอเข้ารับการรักษา
- ในกรณีของการรักษาแบบผู้ป่วยในหรือการผ่าตัดย่อยหรือที่เรียกว่าหัตถการนั้นเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลจะติดต่อวิริยะ เพื่อตรวจสอบและยืนยันสิทธิ์ความคุ้มครองรวมทั้งวงเงินคุ้มครองของท่าน
- เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลจะแจ้งผลการยืนยันสิทธิ์
- ในกรณีที่ วิริยะ จำเป็นต้องขอข้อมูลใด ๆ เพิ่มเติมเพื่อใช้ประกอบการพิจารณาให้ความคุ้มครองซึ่งไม่สามารถกระทำได้ในช่วงเวลาที่ท่านเข้าพักรักษาในโรงพยาบาลนั้น ท่านอาจถูกร้องขอให้ชำระค่ารักษาพยาบาลด้วยตนเองก่อนและนำส่งเอกสารที่เกี่ยวข้องทั้งหมดมายังวิริยะ เพื่อเรียกร้องค่าสินไหมชดเชยต่อไป
ก่อนที่ท่านต้องเข้ารับการรักษาทุกครั้งโดยเฉพาะการรักษาแบบผู้ป่วยในหรือการผ่าตัดใดๆ กรุณาติดต่อเจ้าหน้าที่บริการสมาชิกของวิริยะ เพื่อช่วยท่านในการตัดสินใจ รวมทั้งบริการจัดหาโรงพยาบาลที่เหมาะสมและการแนะนำอื่น ๆ เพื่อให้แน่ใจว่าท่านจะได้รับความคุ้มครองและใช้สิทธิประโยชน์อย่างเต็มที่ กรุณาติดต่อ แผนกลูกค้าสัมพันธ์ เพื่อแจ้งความประสงค์ในการทำ Pre-arrangement ที่หมายเลข 0 2660 1216 หรือ e-mail : AH_CS@viriyah.co.th โดยบริการ pre-arrangement นั้น ท่านจะต้องขอรับบริการตรวจสอบสิทธิ์ล่วงหน้าอย่างน้อย 3 วันทำการก่อนเข้ารับการรักษา ซึ่งความรวดเร็วในการแจ้งผลความคุ้มครองนั้นขึ้นอยู่กับความสมบูรณ์ของข้อมูล อาทิ ประวัติการรักษาพยาบาลของท่าน ที่ทีมการแพทย์ของวิริยะจะได้รับ
เบี้ยประกันที่เสนอให้เด็กในปัจจุบัน เป็นราคาสำหรับการทำประกันร่วมกับบิดา หรือมารดา หากเป็นเบี้ยประกันสำหรับเด็กคนเดียว จะราคาสูงขึ้นมาก
สามารถซื้อประกันให้เด็กอายุต่ำกว่า 15 ปีได้ ในกรณีที่ผู้ปกครองอยู่ในทะเบียนบ้านเดียวกัน
แจ้งความประสงค์สิ่งที่ต้องการแก้ไขลงในสำเนาบัตรประชาชน ส่งเรื่องเข้ามาที่อีเมล AH_CS@viriyah.co.th จะมีเจ้าหน้าที่รับเรื่องประสานงานแก้ไขข้อมูลให้